

“หลุมสิวเป็นเรื่องธรรมชาติ” จริงเหรอ? ใครพบปัญหาเราช่วยคุณได้

จีเอ็มคลินิก บริหารงานและให้การรักษาโดยแพทย์เจ้าของคลินิกทั้งสองท่าน ช่วยให้แพทย์สามารถวางแผนการรักษาได้อย่างตรงจุด คืนผิวหน้าที่เรียบเนียน ลดริ้วรอย และรักษารอยแผลเป็นให้กับคุณ ปัญหาเรื่องสิวไม่ควรถูกมองว่าเป็นเรื่องเล็กน้อยอีกต่อไป โดยเฉพาะปัญหาหลุมสิวที่รักษายากและควรได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที ใครก็ตามที่เคยได้ยินมาว่าเรื่องสิวเป็นเรื่องง่าย ๆ ไม่ควรนิ่งนอนใจนะคะ โดยเฉพาะกับท่านที่ประสบปัญหาสิวบนใบหน้า ล้วนแต่ต้องเคยประสบกับความไม่สบายใจและขาดความมั่นใจ เพราะใคร ๆ ต่างก็ต้องการให้ใบหน้าตัวเองเรียบเนียนและดูอ่อนเยาว์ด้วยกันทั้งนั้น
มาทำความรู้จักกับหลุมสิวกันให้มากขึ้น
อย่าปล่อยให้หลุมสิวมาทำลายความมั่นใจของคุณนะคะ เรื่องสิวเป็นเร ื่องใหญ่ที่ใคร ๆ ก็ไม่อยากให้เกิดขึ้นกับตนเอง โดยเฉพาะสิวที่นำไปสู่การเกิดหลุมสิว ซึ่งจะสร้างรอยแผลเป็นที่เห็นชัดบนในหน้าของเรา สร้างความรำคาญใจ รวมถึงความไม่มั่นใจ เราจึงต้องได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง รวมถึงเข้าใจวิธีการป้องกันการเกิดสิวในชีวิตประจำวัน เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดสิวที่สามารถพัฒนาไปเป็นหลุมสิว เรามาดูกันว่ามีปัจจัยหรือสาเหตุอะไรบ้างที่ก่อให้เกิดสิวกันก่อนค่ะ
1. ปัญหาความมัน
สาเหตุหนึ่งของการเกิดสิว เกิดจากการอุดตันของต่อมไขมันชนิดใต้ชั้นผิวหนัง โดยเฉพาะในผู้ที่มีผิวหน้ามัน ต่อมไขมันใต้ชั้นผิวหนังเหล่านี้จะสร้างน้ำมันออกมาเป็นจำนวนมาก เมื่อรวมเข้ากับพฤติกรรมการล้างหน้าที่ไม่สะอาดพอ ก็จะก่อให้เกิดการอุดตันและพัฒนาเป็นสิวได้
2. การอักเสบของผิว (inflammation)
ในกรณีที่ผิวของเราสัมผัสกับเชื้อแบคทีเรียหรือสิ่งแปลกปลอมต่าง ๆ จนก่อให้เกิดสิว และเมื่อถูกกระตุ้นด้วยปัจจัยหลาย ๆ อย่าง จึงทำให้เกิดการอักเสบของสิวขึ้น การอักเสบนี้อาจทำให้เนื้อเยื่อผิวหนังบริเวณรอบ ๆ สิวถูกทำลาย โดยหากได้รับการรักษาที่ไม่ตรงจุด หรือการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์รักษาสิวที่ไม่เหมาะสม ปัญหานี้สามารถลุกลามจนพัฒนาเป็นหลุมสิวขึ้นได้
3. เนื้อเยื่อผิวที่มีการสร้างคอลลาเจน (collagen) และอีลาสติน (elastin) ถูกทำ ลาย
ในกรณีของสิวที่มีความรุนแรง เนื้อเยื่อผิวหนังในบริเวณที่เกิดสิวนั้นอาจจะถูกทำลายลง ทำให้ไม่สามารถสร้างคอลลาเจนหรืออีลาสตินขึ้นมาทดแทนได้ โดยคอลลาเจนเป็นชื่อเรียกของโปรตีนชนิดหนึ่งที่มีคุณสมบัติในการรักษาความยืดหยุ่นและคงความเรียบเนียนของผิวหนัง เมื่อเรามีอายุเพิ่มมากขึ้น คอลลาเจนในชั้นผิวหนังของเราก็ลดน้อยลงตามไปด้วย ทำให้เกิดความเสี่ยงที่จะเกิดหลุมสิวในบริเวณที่มีสิวเกิดขึ้น เนื่องจากกระบวนการฟื้นฟูผิวด้วยการสร้างคอลลาเจนขึ้นมาเองจะเป็นไปอย่างล่าช้า นอกจากนี้ การเลือกใช้เทคนิคการรักษาที่ไม่เหมาะสมและการขาดความรู้ความชำนาญของแพทย์ผู้ให้การรักษา อาจก่อให้เกิดการทำลายสิวรวมถึงเนื้อเยื่อโดยรอบอย่างรุนแรง ซึ่งสามารถก่อให้เกิดหลุมสิวที่ไม่ พึงประสงค์ขึ้นได้
4. พฤติกรรมของผู้เป็นสิวเอง
ในหลายกรณี ปัญหาหลุมสิวที่เกิดขึ้นมักจะมีสาเหตุมาจากการดูแลรักษาในตอนเป็นสิวที่ไม่ดีพอ เช่น การแกะสิว การบีบสิว การไม่รักษาความสะอาดบริเวณที่เป็นสิว การล้างหน้าที่ไม่สะอาดพอ การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีฤทธิ์รุนแรง ตลอดจนการพักผ่อนไม่เพียงพอ ล้วนแล้วแต่ก่อให้เกิดสิวและหลุมสิวขึ้นได้
หากเกิดหลุมสิวแล้วจะรับมืออย่างไรดี?
พยายามประคับประครองก็แล้ว จนแล้วจนรอดก็ยังเกิดหลุมสิวขึ้นมาจนได้... หากคุณพบป ัญหากลุ้มใจหลุมสิวที่ทำให้ใบหน้าของคุณไม่เรียบเนียน เกิดความไม่มั่นใจในตัวคุณเอง อย่าเพิ่งใจเสียไปค่ะ ไม่ต้องกังวลใจในเรื่องนี้นะคะ ในปัจจุบันวงการแพทย์มีการพัฒนาและต่อยอดวิธีการรักษาหลุมสิวกันจนได้ผลลัพธ์เป็นที่น่าพอใจอยู่หลายวิธีที่สามารถทำให้หลุมสิวของคุณตื้นขึ้นและดีขึ้น และสามารถลดโอกาสเกิดใหม่ของสิวได้
1. วิธีรักษาหลุมสิวโดยการเลเซอร์ (Laser)
การรักษาหลุมสิวด้วยเลเซอร์เป็นวิธีการที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เนื่องจากระยะเวลาในการรับบริการแต่ละครั้งที่สั้น ไม่ต้องพักฟื้น และมีประสิทธิภาพสูง เครื่องมือจะใช้เลเซอร์ในการส่งพลังงานแสงไปยังผิว หนังเป้าหมายเพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในผิวใหม่ ทำให้หลุมสิวตื้นขึ้นและผิวดูเรียบเนียนมากขึ้น เลเซอร์ที่นิยมใช้มีหลายประเภท เช่น fractional CO2 Laser และ pico-second laser เป็นต้น ทั้งนี้ เครื่องเลเซอร์แต่ละชนิดถูกออกแบบมาเพื่อใช้กับผิวและลักษณะของหลุมสิวที่แตกต่างกันไป
2. วิธีรักษาหลุมสิวด้วยคลื่นวิทยุ (Radiofrequency – RF)
การใช้คลื่นวิทยุในการรักษาหลุมสิวถือเป็นวิธีการรักษาที่มีประสิทธิภาพ โดยคลื่นวิทยุจะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวหนัง ส่งผลให้หลุมสิวตื้นขึ้น จุดเด่นของการรักษาหลุมสิวด้วยคลื่นวิทยุคือ ไม่เจ็บ และไม่ต้องใช้เวลาพักฟื้นนาน นอกจากนี้ยังช่วยปรับปรุงสภาพผิวได้อีกด้วย พลังงานที่อยู่ใสนรูปของคลื่นว ิทยุจะถูกส่งผ่านหัวปล่อยพลังงานลงไปยังชั้นผิวหนัง ความร้อนที่เกิดขึ้นจะเข้าไปกระตุ้นให้เซลล์ไฟโบรบลาสต์ผลิตคอลลาเจนและอีลาสตินมากขึ้น โดยคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่เหล่านี้จะเข้ามาช่วยซ่อมแซมผิวหนังบริเวณที่เสียหาย ทำให้หลุมสิวตื้นขึ้นและผิวเรียบเนียนขึ้น
3. วิธีรักษาหลุมสิวโดยการตัดพังผืด (Subcision)
การตัดพังผืดรักษาหลุมสิว เหมาะสำหรับหลุมสิวที่มีพังผืดหรือมีลักษณะของรอยแผลที่ลึก การตัดพังผืดทำโดยการใช้อุปกรณ์ที่มีลักษณะเป็นเข็มที่ออกแบบมาเพื่อการตัดพังผืดใต้ผิวหนังโดยเฉพาะ เพื่อกระตุ้นให้ชั้นผิวหนังได้มีโอกาสในการสร้างคอลลาเจนขึ้นมาใหม่ วิธีนี้ถือเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพสูงในการทำให้หล ุมสิวตื้นและผิวดูเรียบเนียนขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และยังสามารถใช้เพื่อรักษาหลุมสิวแต่ละหลุมได้อย่างเฉพาะเจาะจง
4. โปรแกรมการฉีดสารฟื้นฟู
โดยจะเป็นการฉีดสารเติมเต็ม หรือสารในกลุ่ม biostimulator เพื่อเร่งการฟื้นฟูเนื้อเยื่อในบริเวณที่เป็นหลุมสิวโดยแพทย์ผู้ให้การรักษา
5. การใช้กรด TCA
วิธีนี้เหมาะสำหรับการรักษาหลุมสิวลึก ที่มีลักษณะปากหลุมแคบ
จะเห็นได้ว่าถึงแม้หลุมสิวจะเป็นปัญหาที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน แต่สาเหตุและลักษณะของปัญหาหลุมสิวก็แตกต่างกันออกไปในแต่ละบุคคล ทำให้การพึ่งพาการรักษาหลุมสิวเพียงวิธีการเดียวอาจจะใช้ไม่ได้ผล สิ่งสำคัญที่สุดที่ควรพิจารณาคือ การนัดหมายเข้าปรึกษากับแพทย์ผู้ให้การรักษา เพื่อให้แพทย์ได้ทำการตรวจวิเคราะห์ปัญหา ลักษณะของหลุมสิว พร้อมชี้แจงเทคนิคและร่วมกันวางแผนแนวทางในการรักษาที่เหมาะสมเพื่อให้ได้การรักษาที่ตรงจุด ไม่เป็นการเสียเวลา ซึ่งจะทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและมีประสิทธิภาพ เพื่อคืนความมั่นใจและใบหน้าที่เรียบเนียนให้กับคุณค่ะ