

เลือกครีมกันแดดยังไงให้เหมาะกับผิว? ป้องกันแดดได้จริงโดยไม่อุดตันผิว

หลายคนอาจมองว่า “กันแดด” เป็นแค่สกินแคร์อีกหนึ่งขั้นตอน แต่ในความเป็นจริง การเลือกกันแดดที่ เหมาะกับสภาพผิว ไม่เพียงช่วยปกป้องคุณจากฝ้า กระ จุดด่างดำ หรือริ้วรอยก่อนวัย แต่ยังช่วย ลดโอกาสการอุดตัน รูขุมขนกว้าง หรือสิวซ้ำซาก ได้ด้วย
บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักวิธีเลือกครีมกันแดดอย่างเข้าใจ พร้อมคำแนะนำจากง GM Clinic เพื่อให้คุณสามารถดูแลผิวอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพในทุกวัน
ทำไม “กันแดด” สำคัญกว่าที่คิด?
แสงแดดไม่เพียงแต่ทำให้ผิวคล้ำเสียเท่านั้น แต่ยังเต็มไปด้วยรังสี UVA, UVB, HEV (แสงสีฟ้า) และ Infrared (รังสีอินฟราเรด) ซึ่งสามารถทำลายคอลลาเจนในผิว, กระตุ้นเม็ดสีใ ห้ทำงานผิดปกติ และก่อให้เกิดการอักเสบใต้ผิวแบบไม่รู้ตัว (Invisible Inflammation)
โดยเฉพาะในผู้ที่มีปัญหา ฝ้าแดด ฝ้าฮอร์โมน หรือรอยสิวเรื้อรัง หากไม่ได้ป้องกันแสงแดดอย่างถูกวิธี จะทำให้การรักษาที่ทำอยู่ ได้ผลช้าลง หรือฝ้ากลับมาเข้มขึ้นอีกครั้ง
เช็กก่อนเลือก: สภาพผิวแบบไหน เหมาะกับกันแดดแบบใด?
ผิวมัน / ผิวเป็นสิวง่าย
ควรเลือกกันแดดที่มีเนื้อบางเบา ไม่อุดตัน ไม่มันเยิ้ม
มองหาคำว่า “Oil-Free”, “Non-Comedogenic” หรือ “Mattifying” บนฉลาก
เนื้อผลิตภัณฑ์ที่แนะนำ: เจล / ฟลูอิด / เอสเซนส์เนื้อบาง
หลีกเลี่ยงกันแดดเนื้อครีมเข้มข้น หรือมีซิลิโคนเคลือบผิวมากเกินไป
ผิวแห้ง / ผิวลอกเป็นขุยง่าย
ควรเลือกกันแดดที่มีสารบำรุงให้ความชุ่มชื้นร่วมด้วย
เลือกสูตรที่มี Ceramide, Hyaluronic Acid หรือ Glycerin
เนื้อผลิตภัณฑ์ที่แนะนำ: ครีมหรือมิลค์ที่ซึมไว แต่ให้ความชุ่มชื้น
หลีกเลี่ยง: สูตรควบคุมความมันหรือแอลกอฮอล์สูง เพราะจะยิ่งทำให้ผิวแห้งลง
ผิวแพ้ง่าย / ผิวหลังทำเลเซอร์
ต้องใช้กันแดดที่ ไม่มีน้ำหอม ไม่มีแอลกอฮอล์ และไม่มีสารกันเสียที่ระคายเคือง
เลือก กันแดดชนิด Physical (Mineral Sunscreen) ที่ใช้ Zinc Oxide หรือ Titanium Dioxide
เนื้อผลิตภัณฑ์ที่แนะนำ: ครีมสูตรอ่อนโยน ผ่านการทดสอบสำหรับผิวบอบบาง
หลีกเลี่ยง: กันแดดเคมีแรงๆ หรือมีสารกันแดดผสมหลายตัว

กันแดดแบบ Physical vs Chemical ต่างกันยังไง?
กันแดดแบบ Physical หรือที่เรียกว่ากันแดดฟิสิคัล (Mineral Sunscreen) ทำหน้าที่ สะท้อนรังสี UV ออกจากผิวทันทีหลังทา โดยไม่ดูดซึมลงผิว มักมีส่วนผสมหลักคือ Zinc Oxide หรือ Titanium Dioxide มีความอ่อนโยนสูง จึงเหมาะกับ ผิวแพ้ง่าย หรือผิวที่เพิ่งทำเลเซอร์
กันแดดแบบ Chemical หรือกันแดดเคมี ทำงานโดย ดูดซับรังสี UV แล้วเปลี่ยนเป็นพลังงานความร้อน ก่อนปล่อยออกจากผิว มักมีเนื้อสัมผัสบางเบา ซึมง่าย ไม่ทิ้งคราบขาว เหมาะกับผู้ที่มี ผิวมัน ผิวปกติ หรือชอบความรู้สึกบางเบาไม่เหนอะหนะ
กันแดดแบบ Hybrid เป็นสูตรผสมที่รวมข้อดีของทั้งแบบฟิสิคัลและเคมี ใช้ง่าย ครอบคลุม เหมาะกับผู้ที่ไม่มีปัญหาผิวเฉพาะเจาะจง ต้องการการปกป้องและเนื้อสัมผัสที่บาลานซ์กัน
ป้องกันแสงได้ดีแค่ไหน? อ่านค่ากันแดดให้เป็น
SPF (Sun Protection Factor): ป้องกัน UVB รังสีที่ทำให้ผิวไหม้แดด แนะนำ SPF 30 ขึ้นไปในชีวิตประจำวัน และ SPF 50+ หากออกแดดจัด
PA (Protection Grade of UVA): ป้องกัน UVA ที่ทำให้ผิวแก่เร็วและเกิดฝ้า เลือกที่ PA+++ ขึ้ นไป โดยเฉพาะหากคุณมีปัญหาฝ้าหรือทำเลเซอร์ผิว
Broad Spectrum / UVA + UVB / Blue Light Protection: ครอบคลุมรังสีหลากหลายชนิด ทั้งจากแสงแดดและหน้าจอ

คำแนะนำจาก GM Clinic กันแดดที่ดีต้องตอบโจทย์ “สุขภาพผิวระยะยาว”
ที่ GM Clinic อุบลราชธานี เรามักพบผู้ที่มารักษาฝ้า หลุมสิว หรือรอยดำจากสิวเรื้อรัง ที่ใช้กันแดด “ไม่เหมาะกับสภาพผิว” จนเกิดสิวอุดตันหรือระคายเคืองเพิ่มขึ้น
การเลือกกันแดดที่ดี ไม่จำเป็นต้องราคาแพง แต่ต้องเหมาะกับผิวคุณจริง ๆ และใช้ใน “ปริมาณและความถี่ที่ถูกต้อง” เช่น
ทาทุกวัน แม้ไม่ออกจากบ้าน
ทาซ้ำทุก 2–3 ชั่วโมง หากอยู่กลางแจ้งหรือโดนน้ำ/เหงื่อล้างออกให้สะอาดในตอนเย็น ด้วยคลีนเซอร์อ่อนโยน
กันแดดที่ใช่ ไม่ได้ดูที่ค่า SPF สูงที่สุด แต่ต้อง “เหมาะกับผิวคุณที่สุด”
เลือกจากสภาพผิว (มัน แห้ง แพ้ง่าย)
อ่านฉลากให้ครบ ทั้ง SPF / PA / ชนิดของกันแดด
ใช้ในปริมาณและความถี่ที่ถูกต้อง
ควรปรึกษาแพทย์ หากคุณมีปัญหาผิวหรือผิวแพ้ง่ายเป็นพิเศษ
หากคุณกำลังรักษาฝ้า รอยดำ หรืออยากเริ่มดูแลผิวอย่างปลอดภัย สามารถรับคำแนะนำและปรึกษาได้ที่ GM Clinic อุบลราชธานี เรายินดีดูแลผิวของคุณอย่างเข้าใจ พร้อมแนะนำโปรแกรมที่ “เวิร์ก” จริงกับผิวของคุณค่ะ